ออนไลน์ 7 |
วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ณ ห้องประชุมใหญ่ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาและสันติ อาคารยูซีเอฟ หัวหมาก บางกะปิ กทม. โลกมนุษย์ของเราในปัจจุบันนี้กำลังอยู่ในจุดหักเหที่น่ากลัวอันตรายยิ่ง ระบอบการปกครอง การก่อการร้าย และการถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัดโดยรัฐบาลของประเทศต่างๆ น่าจะได้มีการระดมความคิดเห็นกันเสียใหม่อย่างเป็นรูปธรรม ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้่นสุดลง เมื่อ 60 ปีที่แล้ว โลกของเรายังมิเคยมีสันติภาพที่ถาวรแม้แต่ปีเดียว มนุษย์โลกทำสงครามรบราฆ่าฟันกันโดยขาดเหตุผลความยั้งคิด ทำให้ผู้คนล้มตายและสร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าในทุกภูมิภาคของโลก ความขัดแย้งระหว่าง IRA ของไอร์แลนด์กับสหราชอาณาจักรก็ีดี สงครามระหว่างอินเดียกับปากีสถาน สงครามโครเอเซียกับรัสเซีย สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สงครามคูเวต สงครามอ่าวเอร์เซีย สงครามอาเจะห์ สงครามระหว่างกลุ่มก่อการร้ายอิสลามกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ สงครามอาฟกานิสถาน สงครามอิรัก การก่อการร้ายที่ตึกเวิล์ดเืทรด กรุงนิวยอร์ค หรือแม้แต่การก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของราชอาณาจักรไทย ที่ทำลายชีวิตซึ่งกันและกันของพวกเราคนไทยด้วยกันติดต่อกันเกือบทุกวันมา 2 ปีแล้วก็ีดี วิกฤติการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันมา 60 ปีแล้ว โดยมนุษย์โลกเอามิิติแห่งการนับถือศาสนาเข้ามาพัวพันแล้วสร้างความขัดแย้งก่อสงครามขึ้น องค์การสหประชาชาิติ และคณะมนตรีแห่งความมั่นคงไม่อาจยุิติความขัดแย้งเหล่านี้ได้เลย ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันโดยเฉพาะการยกเอาความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนามาเป็นเหตุ ยิ่งทำให้การแ้ก้ไขยากเย็น และลุกลามมากยิ่งขึ้น ทั้งที่มวลมนุษยชาิติได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุิติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น สหพันธ์นานาชาติและศาสนาเพื่อสันติภาพโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา จึงได้ถูก ตั้งขึ้นโดยท่านสาธุคุณซัน ยังมูนและมีสาขาในทุกประเทศทั่วโลก โดยเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ปฏิัิบัิติภารกิจหน้าที่ผูกพันกับองค์การสหประชาชาติ มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 โดยนำเอามิิติของศาสนสัมพันธ์ การทำความเข้าใจกันของผู้นำทุกศาสนาในโลก การสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในหมู่ผู้สอนศาสนา และศาสนิกชนของทุกๆ ศาสนา ระงับความขัดแย้ง ละเลิกความรังเกียจเดียดฉันท์ทางศาสนาต่อกันให้สิ้นไป โดยใช้องค์การสหประชาชาติเป็นแกนนำในการเสริมสร้างความเข้าใจ ในศาสนสัมพันธ์นี้ การประชุม IIFWP Assembly ที่กรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อ ค.ศ. 2005 เป็นการประชุุมใหญ่ของทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามทกุประเทศ ที่ประชุมได้มีมติให้ IIFWP สหพันธ์สากลและศาสนสัมพันธ์เพื่อสัินติภาพโลก (International) นำเสนอต่อเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ตั้ง International Interreligious Peace Council (IIPC) ในหน่วยงานภาคประชาสังคมของสหประชาชาติโดยที่ประธานาธิปดีแห่งฟิลิปปินส์เป็นประเทศนำเสนอ เนื่องจากการประชุมจัดขึ้นที่ กรุงมะนิลา ที่ประชุม สมัชชาสหประชาชาติเห็นชอบ และดำริให้มี United Reform โดยเิชิญ ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุนเป็นประธานในเรื่อง UN Reform นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการเสริมสร้างสัินติภาพ อันถาวรขึ้นในโลกนี้ให้จงได้ การทำงานของ IIFWP และ IIPC ที่ผ่านมา หรือ Universal Peace Federation (UPF) ในปัจจุบัน ได้มีสมาชิกของสหพันธ์และองค์กรเสียสละ ช่วยกันทำงานเป็นจำนวนมาก โดยมีความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรสันติภาพโลก ที่หยุดความขัดแย้ง หยุดการก่อการร้าย หยุดสงครามที่เข่นฆ่ากัน มุ่งหวังสันติสุข และความสมานฉันท์ของมนุษยโลกที่ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนากัน เพื่อยุติสงครามโดยสิ้นเชิง โอยเอาศาสนสัมพันธ์เป็นเครื่องร้อยรัดน้ำใจคนทั้งโลกให้เป็นอันหนึ่ง อันเดีัยวกัน ยึดสามัคคีธรรมเป็นเครื่องค้ำจุนโลก บุคคลเหล่านี้จึงสมควรได้รับการยอมรับนับถือในน้ำใจอันดีงามนี้ให้ปรากฏ เราจึงมอบ "เกียรติบัตรทูตสันติภาพ" (Ambassador for Peace) เป็นเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจแก่บรรดาสมาชิกผู้รักสันติภาพของเรา ทูตสันติภาพที่เคารพ ท่านทั้งหลายเป็นปัญญาชน มีประสบการณ์ มีความห่วงใยชาติบ้านเมือง และสันติภาพโลก บัดนี้จึงถึงเวลาที่เราทั้งหลายจะร่วมหารือ ระดมความคิดกันว่าเราควรดำเนินการประการใด ทิศทางไหน ที่จะบรรลุผลนำทางไปสู่สันติภาพโลกอันถาวร ตลอดจนสันติภาพของราชอาณาจักรไทยด้วย การประชุมเช้าวันนี้ จะเป็นการปาฐกถานำโดย คุณโสภณ สุภาพงษ์ วุฒิสมาชิก และกรรมการก.อ.ส. ในภาคสายจะเป็นการประชุมกลุ่มย่อย เพื่อระดมความคิดจากทูตสันติภาพ แล้วสรุปนำเสนอที่ประชุมใหญ่ตอน 11.30 นาฬิกาก่อนเวลาอาหารกลางวัน บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ผมขอเปิดการสัมมนาเรื่องบทบาทในฐานะทูตสันติภาพและภารกิจหน้าที่" ขอให้การประชุมนี้ก่อให้เกิดแนวคิดอันจะเป็นคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ขอขอบคุณ |